พบธาตุสังเคราะห์ ชื่อ"อูนอูนเซปเทียม-117"
คณะนักวิจัยนานาชาติจากห้องปฏิบัติการปฏิกิริยานิวเคลียร์เฟรรอฟในโครงการวิจัยปรมาณูร่วมสหรัฐและรัสเซีย เมือง ดูปนา รัสเซีย เปิดเผยการค้นพบธาตุเลขอะตอมที่ 117 ตั้งชื่อให้ว่า "อูนอูนเซปเทียม" มีสัญลักษณ์ทางเคมีว่า Uus ถือเป็นการค้นพบธาตุครั้งสำคัญส่งผลให้ตารางธาตุและตำราในห้องเรียนห้องปฏิบัติการเคมีต้องถูกปรับปรุงใหม่
นอกจากนั้น ธาตุใหม่ดังกล่าวยังทำให้นักวิจัยสังเคราะห์ธาตุใหม่เพิ่มขึ้นได้อีก 5 ธาตุ คือ ตั้งแต่เลขอะตอมที่ 113-116 และ 118 ได้แก่ อูนอูนเทรียม อูนอูนควอเดียม อูนอูนเพนเทียม อูนอูนเฮกเซียม และอูนอูนออกเทียม นับเป็นการปรับปรุงตารางธาตุล่าสุด โดยในรอบ 7 ทศวรรษมีธาตุถูกเพิ่มในตารางธาตุเพียง 21 ธาตุ คือ ตั้งแต่หมายเลขอะตอมที่ 61 และ 93-112 ซึ่ง 6 ธาตุใหม่ดังกล่าวถือเป็นธาตุที่มีน้ำหนักมากที่สุดในโลกขณะนี้
การค้นพบอูนอูนเซปเทียมใช้เวลาการวิจัยราว 2 ปี เริ่มต้นจากการฉายแสงกัมมันตภาพรังสีเพื่อสร้างธาตุเบอร์เกเลียมด้วยเตาปฏิกรณ์ฟลักซ์สูงในห้องปฏิบัติการแห่งชาติโอกริดจ์ของสหรัฐ 250 วัน ตามด้วยการทำให้บริสุทธิ์อีก 90 วัน นำไประดมยิงด้วยเครื่องเร่งอนุภาคนิวเคลียร์ 320 วันต่อเนื่อง ณ สถาบันวิจัยเตาปฏิกรณ์ขั้นสูงในเมืองดิมิทรอฟการ์ตในรัสเซีย จากนั้นนำข้อมูลไปวิเคราะห์ที่ห้องปฏิบัติการแห่งชาติลอว์เรนซ์ลิเวอร์มอร์ในเมืองดูปนา จนนำมาสู่การค้นพบดังกล่าว
คณะนักวิจัยกล่าวว่า การค้นพบธาตุโลหะหนักใหม่ทั้ง 6 ชนิดนับเป็นการเข้าใกล้หมู่เกาะแห่งความเสถียร หรือ Island of stability มากที่สุดเท่าที่เคยมีมาซึ่งจะทำให้ครึ่งชีวิต หรือ ฮาลฟไลฟ์ ของธาตุที่จะสลายตัวเหลือปริมาณเพียงครึ่งเดียวและปลดปล่อยกัมมันตภาพรังสีนั้นใช้เวลานานมากขึ้นส่งผลให้ธาตุนั้นๆ มีเสถียรภาพสูง
ศ.โจ ฮามิลตัน ผู้เชี่ยวชาญด้านฟิสิกส์แห่งมหาวิทยาลัยวันเดอร์บิลต์ กล่าวว่า ธาตุใหม่เหล่านี้ช่วยขยายความเข้าใจเกี่ยวกับธรรมชาติของจักรวาลและจะเป็นประโยชน์อย่างมากกับการทดสอบสำคัญในศาสตร์ด้านนิวเคลียร์ ทั้งยังเป็นสิ่งพิสูจน์ถึงความเป็นไปได้ถึงการค้นพบธาตุในหมู่เกาะแห่งความเสถียรซึ่งถูกคิดว่าเป็นเพียงแค่ทฤษฎีในปี 2503
หน้า 29
ข้อมูลจากหนังสือพิมพ์ ข่าวสด
ที่มา http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROMFpXTXdNVEk0TURVMU13PT0=
วิกิฯ http://bit.ly/9T6sRH
กูเกิลกูรู
"ความรู้ ไม่ใช่ปัญญา" (Knowledge is not wisdom.) --ไอน์สไตน์--
ความรู้เป็นเรื่องของความความคิดตาม ประสบการณ์ การทดลอง หรือองค์แห่งสาระ มากมายตำรา มาให้อ่านและเพิ่มพูน แต่ปัญญาเป็นเรื่องทางจิตใจ ความเข้าใจ ประกอบโดยสติและรู้เท่าทัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือการรู้เท่าทันตนเอง ตรงนี้เอง "ความรู้ท่วมหัว เอาตัวไม่รอด" ไม่ได้เกิดจากความรู้เยอะ แต่น่าจะเกิดจากมีปัญญาไม่พอ ที่จะประคองชีวิตให้พ้นผ่านอุปสรรค (ขยายความจาก "ความรู้ ไม่ไช่ปัญญา - Khowledge is not wisdom" คำจาก ไอน์สไตน์)
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น