นายแพทย์จิรัตน์ ตั้งฐิตวงศ์ ห้วหน้ากลุ่มงานสูตินารีเวชกรรมโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพศูนย์อนามัยที่1 กรมอนามัย อธิบายว่าในทางการแพทย์อธิบายว่าขณะตั้งครรภ์ร่างกายจะผลิตรกขึ้นมา ซึ่งรกจะผลิตฮอร์โมนเรียกว่า ฮอร์โมน เอชซีจี (HCG) ฮอร์โมนเอชซีจีอาจจะทำให้แม่มีจิตใจที่เปลี่ยนไป อาจจะมีความวิตกกังวล และมีอาการแพ้ เพราะเป็นฮอร์โมนแปลกปลอมซึ่งจะไม่มีในผู้หญิงที่ไม่ได้ตั้งครรภ์ ผู้หญิงบางคนจะแพ้มากจนไม่สามารถรับประทานอาหารได้ตามปกติ เช่น ข้าว หมู ผัก เนื้อไก่ เนื้อปลา เป็นต้น โดยเฉพาะนม เมื่อดื่มเข้าไปจะรู้สึกว่านมมีกลิ่นเหม็นคาวจนต้องอาเจียนออกมา
เพราะฉะนั้นจะเกิดอุปาทานเมื่อเจออาหารแปลกๆ เช่นแมลง หรือบางคนชอบที่จะรับประทานถ่าน เพราะเมื่อรับประทานเข้าไปแล้วรู้สึกดีขึ้น จึงทำให้อยากจะรับประทานต่อไปเรื่อยๆเนื่องจากถ่านจะเข้าไปดูดซับแก๊สซึ่งจะเกิดในผู้หญิงที่ตั้งครรภ์หลังจากคลอดแล้วก็ไม่อยากรับประทานอาหารแปลกๆ เหล่านี้ ส่วนความเชื่อที่ว่าไขมันของเด็กเกิดจากการดื่มน้ำมะพร้าวมากเกินไปนั้นก็ไม่เป็นความจริง การที่เด็กคลอดมาจะมีไขมันหรือไม่มีไขมันนั้น ขึ้นกับว่า เด็กนั้นคลอดก่อนกำหนดหรือเปล่า ส่วนใหญ่จะพบว่าเด็กที่คลอดก่อนกำหนด เช่น เด็กที่คลอดในขณะอายุครรภ์ประมาณ 7-8 เดือน จะมีไขมันมากกว่าเด็กที่คลอดเมื่ออายุครรภ์ครบ 9 เดือน นอกจากนั้นยังมีความเชื่อว่า ถ้ารับประทานอาหารที่มีสีดำจะทำให้ลูกที่คลอดออกมามีผิวสีดำนั้นก็ไม่เป็นความจริง เพราะอาหารที่มีสีดำหลายๆ ชนิดเป็นอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น งาดำ ถั่วดำ ไก่ดำ เป็นต้น
TIPS ระหว่างตั้งครรภ์ ไม่ควรเลี้ยงหรือเล่นกับสุนัขและแมว เพื่อป้องกันการติดโรค เช่น พยาธิทอกโซปลาสมา (toxoplasmosis) ซึ่งอาจจะทำให้ลูกที่ออกมามีความผิดปกติต่างๆ ได้เช่น หัวโต หรือ หัวเล็ก ตามองไม่เห็น ฯลฯ และควรระวังโรคหัดเยอรมันซึ่งจะทำให้ทารกพิการได้ ถ้าอายุครรภ์ยังไม่ถึง 3 เดือน
ข้อมูลประกอบ : อาหารธรรมชาติจากแม่สู่ลูก http://bit.ly/dlvA3S
ที่มา : วิทยาศาสตร์รอบตัว(จาก สสวท.)
รูปภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น