"ความรู้ ไม่ใช่ปัญญา" (Knowledge is not wisdom.) --ไอน์สไตน์--

ความรู้เป็นเรื่องของความความคิดตาม ประสบการณ์ การทดลอง หรือองค์แห่งสาระ มากมายตำรา มาให้อ่านและเพิ่มพูน แต่ปัญญาเป็นเรื่องทางจิตใจ ความเข้าใจ ประกอบโดยสติและรู้เท่าทัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือการรู้เท่าทันตนเอง ตรงนี้เอง "ความรู้ท่วมหัว เอาตัวไม่รอด" ไม่ได้เกิดจากความรู้เยอะ แต่น่าจะเกิดจากมีปัญญาไม่พอ ที่จะประคองชีวิตให้พ้นผ่านอุปสรรค (ขยายความจาก "ความรู้ ไม่ไช่ปัญญา - Khowledge is not wisdom" คำจาก ไอน์สไตน์)



วันพุธที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2553

กลียุค 7 ปี " ปรปักษ์พระคริสต์จะฉีกสัญญา แล้วเข้าไปนั่งในพระวิหาร และประกาศตัวเองเป็นพระเจ้า "

กลียุค 7 ปี" ปรปักษ์พระคริสต์จะฉีกสัญญา แล้วเข้าไปนั่งในพระวิหาร และประกาศตัวเองเป็นพระเจ้า "


----------------------------------------------------------------------------------------------------------------

                      พระคัมภีร์ทำนายไว้ว่า ในอนาตคโลกจะมีช่วงระยะเวลาหนึ่ง ซึ่งเต็มไปด้วยความทุกขเวทนายากลำบาก ที่ไม่เคยปรากฎมาก่อนเลยในประวัติศาสตร์ ช่วงระยะเวลา 7 ปี ที่เรียกว่า "กลียุค 7 ปี"
                       ในครั้งนั้น มีคาเอล เทพผู้พิทักษ์ผู้ยิ่งใหญ่ ผู้คุ้มกันชนชาติของท่านจะลุกขึ้น และจะมีความยากลำบากอย่างไม่เคยมีมาก่อน ตั้งแต่ครั้งมีประชาชาติจนถึงสมัยนั้น แต่ในครั้งนั้นชนชาติของท่านจะรับการช่วยกู้ คือทุกคนที่มีชื่อไว้ในหนังสือ   และคนเป็นอันมากในพวกที่หลับในผงคลีแห่งแผ่นดินโลกจะตื่นขึ้น บ้างก็เข้าสู่ชีวิตนิรันดร์ บ้างก็เข้าสู่ความอับอายขายหน้านิรันดร์ (ดาเนียล 12:1-2)
                      พระคัมภีร์กล่าวว่า ในช่วงนี้ปรปักษ์พระคริสต์จะปรากฎโฉม ชาวโลกจำนวนมากจะมองดูผู้นำคนใหม่อย่างมีความหวัง ขเาอาจจะมีส่วนในการนำชาติอิสราแอล และอาหรับเข้าหากัน และอนุญาติให้ยิวสร้างวิหารขึ้นใหม่ จะมีการตกลงสันติภาพกับอิสราแอล ต่อจากนั้นสามปีครึ่ง ปรปักษ์พระคริสต์จะฉีกสัญญานั้น แล้วเข้าไปนั่งในพระวิหาร และประกาศตัวเองเป็นพระเจ้า

                     
ใน 7 ปี แห่งกลียุคนี้ จะเป็นเหตุการณ์โหดร้ายทารุณสยดสยอง พรั่นพรึงอย่างน่ากลัวที่สุด จะไม่มีช่วงใดเลยในประวัติศาสตร์ ไม่ว่าอดีตหรือปัจจุบัน ที่จะน่ากลัวและสยองขวัญเท่ากลียุค 7 ปี พระเยซูตรัสว่า จงอธิษฐานขอ เพื่อการที่ท่านต้องหนีนั้นจะไม่ตกในฤดูหนาว หรือวันสะบาโต ด้วยว่าในคราวนั้นจะเกิดความทุกข์ยากใหญ่ยิ่ง ย่างที่ไม่เคยมีตั้งแต่เริ่มสร้างโลกมาจนทุกวันนี้และเบื้องหน้า จะไม่มีอีกต่อไป... ถ้ามิได้ทรงให้วันเหล่านั้นย่นสั้นเข้า จะไม่มีมนุษย์รอดได้เลย แต่เพราะทรงเห็นแก่ผู้เลือกสรร จึงทรงให้วันเหล่านั้นย่นสั้นเข้า (มัทธิว 24:20-22)
                      จะเกิดอะไรขึ้นแก่มนุษย์โลกในระหว่างกลียุค 7 ปี พระวิวรณ์กล่าวถึง ตราเจ็ดดวง แตรทั้งเจ็ด ขันทั้งเจ็ด
ทั้งหมดนี้หมายถึงหายนะภัยทั้งหลายดังต่อไปนี้
ตราที่1 วิวรณ์ 6:1    หมายถึงปรปักษ์พระคริสต์ ซึ่งจะบรรดาลสิ่งสารพัดเลวร้ายให้เกิดขึ้น
ตราที่2 วิวรณ์ 6:3    สันติภาพสูญหายไปจากโลก เกิดสงคราม การรบราฆ่าฟันแผ่ขยายไปทั่วทั้งโลก
ตราที่3 วิวรณ์ 6:5    ความอดอยากมีอยู่ทั่วไป
ตราที่4 วิวรณ์ 6:7    มนุษย์ชาติตาย 1ใน4 ด้วยคมดาบ โรคระบาด
ตราที่5 วิวรณ์ 6:9    ผู้ที่มีความเชื่อในพระคริสต์ จะถูกสังหารผลาญชีวิต แต่ในที่สุดจะได้ชีวิต
ตราที่6 วิวรณ์ 6:12 เกิดแผ่นดินไหว ดวงอาทิตย์อับแสง พระจันทร์สีเลือด ดาวตกลงบนแผ่นดิน บางคน
                              เชื่อว่าเกิดแผ่นดินไหวใหญ่ เนื่องจากการยิงระเบิดนิวเคลียร์เข้าหากัน
ตราที่7 วิวรณ์ 8:1   ความเงียบเข้าครอบคลุมสวรรค์นานครึ่งชั่งโมง ตราดวงนี้จะขยายให้เห็นแตร
                             อีก 7 อันข้างหน้า
ความหมายของแตรทั้ง 7 (วิวรณ์บทที่ 8-11)
แตรที่1   ลูกเห็บและไฟตก เกิดความเสียหายมากมาย ต้นไม้ 1ใน3 ของโลกไหม้ หญ้าเขียวสดไหม้
              หมดสิ้น
แตรที่2   ทะเลถูกทำลายลง 1ใน3 ของสัตว์น้ำตาย เรือสินค้าทั่วโลกถูกทำลาย 1ใน3
แตรที่3    คนจำนวนมากตายเนื่องจากน้ำมีสารพิษเจือปน
แตรที่4   ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ถูกทำลาย 1ใน3 เป็นเหตุให้อุณภูมิผันแปรอย่างหนัก
แตรที่5    ซาตานซึ่งจะใช้อำนาจของมันทรมานคนที่ไม่มีเครื่องหมายของพระเจ้า หรือคนที่
              ไม่ได้รับความรอด
แตรที่6   มนุษย์ชาติ 1ใน3 จะต้องตายลงอีก ในจำนวนนั้นเป็นทหารถึง 200 ล้านคน
แตรที่7    ราชอาณาจักรในโลกนี้จะกลับเป็นอาณาจักรของพระเยซูคริสต์ แล้วพระองค์จะครอบครอง
              เป็นนิจนิรันดร์


                   ในระหว่างนี้ ปรปักษ์พระคริสต์จะก้าวขึ้นมาแสดงตัวมีบทบาทสำคัญยิ่ง มนุษย์ชาติต่างเกรงกลัวฤทธิ์เดชานุภาพของมัน และยอมตัวเป็นบริวาร เป็นทาสรับใช้ มนุษย์ที่เหลือต่างปล่อยตัวมัวเมาในกามกิเลสตัณหา และความชั่วร้าย สุดที่จะพรรณนา จนกระทั่งทูตสวรรค์ต้องนำขันแห่งพระพิโรธ 7 ใบ เทบนโลก ความหมายของขันทั้งเจ็ด มีดังนี้ (วิวรณ์บทที่ 16)
ขันที่1    เกิดโรคระบาด เป็นแผลร้ายที่ร้ายกาจเสียยิ่งกว่ามะเร็ง แผลหนองทั่วไป
ขันที่2    สิ่งมีชีวิตในทะเลตายหมด เพราะน้ำทะเลเน่าเหม็นเหมือนเลือดของคนตาย
ขันที่3   น้ำจืดกลายเป็นเลือด และมนุษย์ต้องดื่มเลือดแทนน้ำ
ขันที่4    ความร้อนแรงของแสงอาทิตย์แผดเผาแผ่นดินโลกจนแห้งกรอบ มนุษย์กลับยิ่งแช่งด่าพระเจ้า
ขันที่5    มนุษย์ได้รับการทรมานอย่างแสนสาหัส ขนาดต้องกัดลิ้นตัวเอง เพราะบาดแผลร้ายทั่วตัว
            แต่พวกเขาก็ยังไม่สำนึกผิด
ขันที่6    การเตรียมตัวของซาตานมารร้าย เพื่อทำสงครามโลกครั้งสุดท้าย คือสงครามอาร์มาเกดโดน
            มันจะเข้าหาผู้นำประเทศต่างๆ เพื่อบังคับแกมขอร้องให้เข้าร่วมเป็นพันธมิตร
ขันที่7   เกิดวิบัตินานาชนิด แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่สุดที่โลกเคยประสบ ลูกเห็บก้อนใหญ่ขนาดก้อนละ
            50 กิโลกรัม คนจำนวนมากจะตาย ทรัพย์สินเสียหายเหลือคณา เกาะทั้งเกาะจะจมหาย.


--------------------------------------------------------------------------------

(กำลังสืบหาที่มาของบทความนี้ที่ถูกต้อง)
01/09/10, 13.13A

ไม่มีความคิดเห็น: