Ctrl+Alt+Delete ??
คอนโทรล (Ctrl) ออลติเนต (Alt) และดีลีท (Delete) คือคำสั่งยอดฮิตสำหรับจัดการกับคอมพิวเตอร์ ที่ไม่สามารถควบคุมได้ที่ผู้ใช้คอมพิวเตอร์ทั่วไปรู้จักกันดี
โดยทั้งสามปุ่มนี้จะต้องกดพร้อม ๆ กัน จากนั้นระบบจะทำการบูตเครื่องใหม่ ซึ่งทั้งสามปุ่มนี้ เป็นที่รู้จักและยอมรับอย่างแพร่หลายมาตลอด 10 ปีที่คอมพิวเตอร์มีบทบาทกับชีวิตของมนุษย์เรา “เดวิด บรัดเลย์ (David Bradley)” หนึ่งในพนักงานจากยักษ์ใหญ่สีฟ้า “ไอบีเอ็ม” เขาคือผู้คิดค้นโค้ดคำสั่งดังกล่าว โดยใช้เวลาเพียงแค่ 5 นาที ในการเขียนโค้ดคำสั่ง แต่คงปฏิเสธไม่ได้ว่า เขาได้สร้างคำสั่งที่ตรงใจผู้ใช้และจำเป็นมากที่สุดคำสั่งหนึ่งเลยทีเดียว
บรัดเลย์เข้าร่วมงานกับไอบีเอ็มเป็นครั้งแรกในปี ค.ศ. 1975 ในตำแหน่งวิศวกร ประจำอยู่ที่โบคา ราตัน รัฐฟลอริด้า จากนั้นในปี 1980 เขาคือทีมงาน 1 ใน 12 คนของไอบีเอ็มที่ปลุกปั้นคอมพิวเตอร์พีซีขึ้นมา ซึ่งนั่นทำให้เขาย้ายมาทำในส่วนของการวิจัยและพัฒนาให้กับไอบีเอ็ม
โดยในยุคเริ่มแรกของพีซีนั้น พวกเขาจำเป็นต้องออกแบบให้มันใช้งานได้ง่ายที่สุด รวมถึงวิธีการรีสตาร์ทเครื่องคอมพิวเตอร์ ในกรณีที่มันทำงานผิดพลาด หรือเกิดแฮงค์ขึ้นมานั่นเอง และโค้ดคำสั่ง Ctrl + Alt + Delete ก็คือหนึ่งในหลาย ๆ คำสั่งที่บรัดเลย์คิดขึ้นมาได้
“ในตอนนั้นผมไม่ทราบหรอกว่ามันจะกลายเป็น คำสั่งสำคัญของคอมพิวเตอร์พีซีในอนาคต เพราะว่าผมก็ต้องคิดคำสั่งต่าง ๆ อีกมากมาย นอกเหนือจาก Ctrl+Alt+Delete แต่ปรากฏว่าคำสั่งดังกล่าวนี้ เป็นที่รู้จักมากที่สุด”
แต่ก็อาจกล่าวได้ว่า ชื่อเสียงที่โด่งดังของเขานั้น ขึ้นอยู่กับความผิดพลาดของคนสร้างโปรแกรม ว่าจะสร้างพลาดมากน้อยเพียงไร โดยเขากล่าวว่า “ผมอาจจะเป็นคนสร้างมันขึ้นมา แต่บิล เกตต์ คือคนที่ทำให้มันเป็นที่รู้จัก” ซึ่งการสรรเสริญของบรัดเลย์ต่อบิล เกตต์ครั้งนี้ ทำให้เจ้าของค่ายยักษ์ใหญ่อย่างไมโครซอฟท์ ผู้สร้างซอฟต์แวร์Microsoft’s Windows ชื่อดังถึงกับหัวเราะไม่ออกมาแล้ว เพราะอีกนัยหนึ่งก็คือการตอกย้ำให้เห็นถึงความผิดพลาด ในการทำงานของซอฟต์แวร์ของบิล เกตต์นั่นเอง
ปัจจุบัน บรัดเลย์มีอายุ 60 ปี และได้ลาออกจากไอบีเอ็ม บริษัทที่เขาใช้เวลาร่วมด้วยนานเกือบทั้งชีวิต เป็นระยะทางทั้งสิ้น 28.5 ปีแล้ว จากนั้นรายงานระบุว่า เขาจะใช้เวลาหลังการเกษียณตัวเองในการสอน นักศึกษาให้กับมหาวิทยาลัยนอร์ท แคโรไลน่า
บทความต้นฉบับ http://en.wikipedia.org/wiki/Control-Alt-Delete
เพิ่มเติม : ภาพยนตร์ Ctrl+Alt+Delete http://www.imdb.com/title/tt1031224/
How to enable or disable the CTRL+ALT+DELETE sequence for logging on to Windows XP, to Windows Vista, and to Windows 7 http://support.microsoft.com/kb/308226
รูปภาพประกอบจากบทความต้นฉบับ
"ความรู้ ไม่ใช่ปัญญา" (Knowledge is not wisdom.) --ไอน์สไตน์--
ความรู้เป็นเรื่องของความความคิดตาม ประสบการณ์ การทดลอง หรือองค์แห่งสาระ มากมายตำรา มาให้อ่านและเพิ่มพูน แต่ปัญญาเป็นเรื่องทางจิตใจ ความเข้าใจ ประกอบโดยสติและรู้เท่าทัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือการรู้เท่าทันตนเอง ตรงนี้เอง "ความรู้ท่วมหัว เอาตัวไม่รอด" ไม่ได้เกิดจากความรู้เยอะ แต่น่าจะเกิดจากมีปัญญาไม่พอ ที่จะประคองชีวิตให้พ้นผ่านอุปสรรค (ขยายความจาก "ความรู้ ไม่ไช่ปัญญา - Khowledge is not wisdom" คำจาก ไอน์สไตน์)
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ คอมพิวเตอร์ แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ คอมพิวเตอร์ แสดงบทความทั้งหมด
วันอังคารที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2553
วันเสาร์ที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2553
เครื่องถ่ายฯฉายแสงเพื่อ? ต้นฉบับจะถูกแสงจากหลอดควอรตซ์-ไอโอดีน สาดแสงไปโดนกระดาษให้เป็นประจุลบ สีดำเป็นกลาง หมึกติดที่ประจุลบเกิดภาพบนกระดาษ
เครื่องถ่ายเอกสารฉายแสงทำไม??
ปี พ.ศ. 2478 นักฟิสิกส์ชื่อเชสเตอร์ เอฟ.คาร์ลสัน ได้จดสิทธิบัตรกระบวนการทำสำเนาอย่างง่าย ซึ่งได้เปลี่ยนโฉมงามในสำนักงานไปมาก คาร์ลสันเริ่มต้นจากการคิดค้นทำแบบพิมพ์สีเขียวและเอกสารอื่นๆ ในปี พ.ศ. 2481 เขาได้ค้นพบวิธีทำสำเนาอย่างหยาบโดยใช้ประจุไฟฟ้า (คล้ายกับไฟฟ้าสถิต) กระบวนการดังกล่าวเรียกว่า Xerography ซึ่งมาจากภาษากรีกสองคำ คือ Xerox และ graphics ซึ่งแปลว่า แห้ง และ พิมพ์ ตามลำดับ ดังนั้น Xerography จึงหมายถึงการพิมพ์แห้ง
การบวนการถ่ายเอกสาร อ่านต่อ http://www.rmutphysics.com/charud/specialnews/5/Zerox/Zerox1.htm
กลไกการทำงาน
เมื่อม้วนกระดาษคลายกระดาษออกได้ยาวเหมาะสมแล้ว ชุดมีดจะตัดกระดาษออกเป็นแผ่นตามขนาดที่ต้องการ ลูกกลิ้งจะพาแผ่นกระดาษผ่านเข้าสนามไฟฟ้าของเครื่องประจุไฟ ประจุไฟฟ้าบวกจะเกิดขึ้นที่ด้านหลังของกระดาษ และประจุไฟฟ้าลบจะเกิดขึ้นที่ด้านหน้าของกระดาษซึ่งเป็นด้านที่เคลือบสาร
แผ่นกระจกพร้อมเอกสารต้นฉบับจะเลื่อนผ่านช่องหน้าต่างไปอย่างช้า ๆ และได้รับแสงสว่างความเข้มสูงจากหลอดไฟควอรตซ์-ไอโอดีน ลำแสงจะสะท้อนจากเอกสารต้นฉบับไปยังกระจกเงาสะท้อนแสง และสะท้อนผ่านเลนส์รวมแสงไปยังกระดาษเคลือบสาร ในขณะที่แผ่นกระจกเลื่อนไปอย่างช้า ๆ นั้น กระดาษเคลือบสารก็จะเลื่อนไปอย่างช้า ๆ เช่นกัน ทำให้แสงสะท้อนจากเอกสารต้นฉบับไปตกที่กระดาษเคลือบสารด้วยเวลาที่สัมพันธ์กัน ลำแสงที่กระทบกับกระดาษเคลือบสารจะทำให้ประจุไฟฟ้าลบบนกระดาษ ยกเว้นบริเวณสีดำของเอกสารต้นฉบับ เป็นกลาง ประจุไฟฟ้าลบที่ยังเหลืออยู่บนกระดาษเคลือบสารจะมีลักษณะเหมือนกับบริเวณสีดำของเอกสารต้นฉบับ แต่ยังมองไม่เห็น
เมื่อแผ่นกระดาษเคลือบสารที่สัมผัสแสงแล้วผ่านลงไปในสารละลายที่มีอนุภาคของหมึกแขวนลอยอยู่ อนุภาคของหมึกซึ่งมีประจุไฟฟ้าบวกจะเข้าจับบริเวณประจุไฟฟ้าลบบนแผ่นกระดาษ หลังจากนั้นกระดาษจะเลื่อนขึ้นจากอ่างสารละลายเข้าสู่ลูกกลิ้งรีดแห้ง อนุภาคของหมึกจะติดแน่นบนแผ่นกระดาษ แผ่นกระดาษจะถูกเป่าด้วยลมร้อนเพื่อให้กระดาษแห้งก่อนออกจากเครื่อง
เครื่องถ่ายเอกสารระบบสอดสี http://www.rmutphysics.com/charud/specialnews/5/Zerox/Zerox4.htm
กระบวนการถ่ายเเอกสาร http://www.rmutphysics.com/charud/specialnews/5/Zerox/Zerox5.htm
ที่มา ฟิสิกส์ราชมงคล
โดย ธีระยุทธ สุวรรณประทีป พิชัย ลีละพัฒนะ พงษ์ธร จรัญญากรณ์ และนพดล เวชสวัสดิ์
ข้อมูลเพิ่มเติม
อันตรายจากเครื่องถ่ายเอกสาร โดย นายแพทย์ณรงค์ศักดิ์ อังคะสุวพลา และคนอื่นๆ
จาก สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ เล่มที่ 22
http://guru.sanook.com/enc_preview.php?id=1493&title=%CD%D1%B9%B5%C3%D2%C2%A8%D2%A1%E0%A4%C3%D7%E8%CD%A7%B6%E8%D2%C2%E0%CD%A1%CA%D2%C3
วิกิฯ เครื่องถ่ายเอกสาร http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%96%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B9%80%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A3
ความเป็นมาของเครื่องถ่ายเอกสารจากรีดเดอร์ไดเจสต์
http://lib.edu.chula.ac.th/cuappl/libedu2007/lib_tech/aspboard_Question.asp?GID=28
ปี พ.ศ. 2478 นักฟิสิกส์ชื่อเชสเตอร์ เอฟ.คาร์ลสัน ได้จดสิทธิบัตรกระบวนการทำสำเนาอย่างง่าย ซึ่งได้เปลี่ยนโฉมงามในสำนักงานไปมาก คาร์ลสันเริ่มต้นจากการคิดค้นทำแบบพิมพ์สีเขียวและเอกสารอื่นๆ ในปี พ.ศ. 2481 เขาได้ค้นพบวิธีทำสำเนาอย่างหยาบโดยใช้ประจุไฟฟ้า (คล้ายกับไฟฟ้าสถิต) กระบวนการดังกล่าวเรียกว่า Xerography ซึ่งมาจากภาษากรีกสองคำ คือ Xerox และ graphics ซึ่งแปลว่า แห้ง และ พิมพ์ ตามลำดับ ดังนั้น Xerography จึงหมายถึงการพิมพ์แห้ง
การบวนการถ่ายเอกสาร อ่านต่อ http://www.rmutphysics.com/charud/specialnews/5/Zerox/Zerox1.htm
กลไกการทำงาน
เมื่อม้วนกระดาษคลายกระดาษออกได้ยาวเหมาะสมแล้ว ชุดมีดจะตัดกระดาษออกเป็นแผ่นตามขนาดที่ต้องการ ลูกกลิ้งจะพาแผ่นกระดาษผ่านเข้าสนามไฟฟ้าของเครื่องประจุไฟ ประจุไฟฟ้าบวกจะเกิดขึ้นที่ด้านหลังของกระดาษ และประจุไฟฟ้าลบจะเกิดขึ้นที่ด้านหน้าของกระดาษซึ่งเป็นด้านที่เคลือบสาร
แผ่นกระจกพร้อมเอกสารต้นฉบับจะเลื่อนผ่านช่องหน้าต่างไปอย่างช้า ๆ และได้รับแสงสว่างความเข้มสูงจากหลอดไฟควอรตซ์-ไอโอดีน ลำแสงจะสะท้อนจากเอกสารต้นฉบับไปยังกระจกเงาสะท้อนแสง และสะท้อนผ่านเลนส์รวมแสงไปยังกระดาษเคลือบสาร ในขณะที่แผ่นกระจกเลื่อนไปอย่างช้า ๆ นั้น กระดาษเคลือบสารก็จะเลื่อนไปอย่างช้า ๆ เช่นกัน ทำให้แสงสะท้อนจากเอกสารต้นฉบับไปตกที่กระดาษเคลือบสารด้วยเวลาที่สัมพันธ์กัน ลำแสงที่กระทบกับกระดาษเคลือบสารจะทำให้ประจุไฟฟ้าลบบนกระดาษ ยกเว้นบริเวณสีดำของเอกสารต้นฉบับ เป็นกลาง ประจุไฟฟ้าลบที่ยังเหลืออยู่บนกระดาษเคลือบสารจะมีลักษณะเหมือนกับบริเวณสีดำของเอกสารต้นฉบับ แต่ยังมองไม่เห็น
เมื่อแผ่นกระดาษเคลือบสารที่สัมผัสแสงแล้วผ่านลงไปในสารละลายที่มีอนุภาคของหมึกแขวนลอยอยู่ อนุภาคของหมึกซึ่งมีประจุไฟฟ้าบวกจะเข้าจับบริเวณประจุไฟฟ้าลบบนแผ่นกระดาษ หลังจากนั้นกระดาษจะเลื่อนขึ้นจากอ่างสารละลายเข้าสู่ลูกกลิ้งรีดแห้ง อนุภาคของหมึกจะติดแน่นบนแผ่นกระดาษ แผ่นกระดาษจะถูกเป่าด้วยลมร้อนเพื่อให้กระดาษแห้งก่อนออกจากเครื่อง
เครื่องถ่ายเอกสารระบบสอดสี http://www.rmutphysics.com/charud/specialnews/5/Zerox/Zerox4.htm
กระบวนการถ่ายเเอกสาร http://www.rmutphysics.com/charud/specialnews/5/Zerox/Zerox5.htm
ที่มา ฟิสิกส์ราชมงคล
โดย ธีระยุทธ สุวรรณประทีป พิชัย ลีละพัฒนะ พงษ์ธร จรัญญากรณ์ และนพดล เวชสวัสดิ์
ข้อมูลเพิ่มเติม
อันตรายจากเครื่องถ่ายเอกสาร โดย นายแพทย์ณรงค์ศักดิ์ อังคะสุวพลา และคนอื่นๆ
จาก สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ เล่มที่ 22
http://guru.sanook.com/enc_preview.php?id=1493&title=%CD%D1%B9%B5%C3%D2%C2%A8%D2%A1%E0%A4%C3%D7%E8%CD%A7%B6%E8%D2%C2%E0%CD%A1%CA%D2%C3
วิกิฯ เครื่องถ่ายเอกสาร http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%96%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B9%80%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A3
ความเป็นมาของเครื่องถ่ายเอกสารจากรีดเดอร์ไดเจสต์
http://lib.edu.chula.ac.th/cuappl/libedu2007/lib_tech/aspboard_Question.asp?GID=28
วันเสาร์ที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2553
64=65 ได้จริงหรือ?? ดูรูปก่อน--> http://yfrog.com/4bhn4g น่าจะได้เนอะ ดูเต็มๆ http://yfrog.com/16jsog พื้นที่ร่องขาว-1 พี่จีนขงเบ้งอำเนียน!!
64=65 ได้ยังไง
ขยายความต่อที่ http://www.vcharkarn.com/vcafe/63332
ที่มาและรูปภาพประกอบ วิชาการดอทคอม
ขยายความต่อที่ http://www.vcharkarn.com/vcafe/63332
ที่มาและรูปภาพประกอบ วิชาการดอทคอม
วันจันทร์ที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2553
หุ่นยนต์ แอนดรอยด์ และ ไซบอร์ก .... ต่างกันอย่างไร?
Robot - หุ่นยนต์ รูปแบบไหนก็แล้วแต่ที่ไม่ใข่รูปร่างมนุษย์
ไซบอร์ก (Cyborg)
คือ ครึ่งมนุษย์ครึ่งหุ่นยนต์ หรือมนุษย์ (หรือตัวอะไรก็ได้ที่มีความคิดคล้ายมนุษย์น่ะ) ที่มีการดัดแปลงโดยการใส่ส่วนประกอบของเครื่องจักรเข้าไป แต่มีความคิดเป็นของตัวเอง เป็นความคิดจากสมอง
เช่น นายพลเกรย์เวียส (Starwars Episode III), ดาร์ธ เวเดอร์ (Starwars Trilogy)
แอนดรอยด์ (Android)
คือ หุ่นยนต์ที่มีลักษณะภายนอกคล้ายมนุษย์ อาจเรียกอีกอย่างว่า ดรอยด์ (Droid) คือมีหัว มีแขน มีขาแบบเราๆนี่แหละครับ
เช่น ซันนี่ (I, Robot), Battle Droids (Starwars Episode I-III), Super Battle Droids (Starwars Episode II-III)
อ่านต่อ และ ที่มา
คอไซ-ไฟ ตอบหน่อย (กูเกิลกูรู) http://bit.ly/9C6WUY
Robot v. Android v. Cyborg https://honors.rit.edu/amitraywiki/index.php/Robot_v._Android_v._Cyborg
Robots, Androids, and Cyborgs http://thefactbox.blogspot.com/2007/04/robots-androids-and-cyborgs.html
ไซบอร์ก (Cyborg)
คือ ครึ่งมนุษย์ครึ่งหุ่นยนต์ หรือมนุษย์ (หรือตัวอะไรก็ได้ที่มีความคิดคล้ายมนุษย์น่ะ) ที่มีการดัดแปลงโดยการใส่ส่วนประกอบของเครื่องจักรเข้าไป แต่มีความคิดเป็นของตัวเอง เป็นความคิดจากสมอง
เช่น นายพลเกรย์เวียส (Starwars Episode III), ดาร์ธ เวเดอร์ (Starwars Trilogy)
แอนดรอยด์ (Android)
คือ หุ่นยนต์ที่มีลักษณะภายนอกคล้ายมนุษย์ อาจเรียกอีกอย่างว่า ดรอยด์ (Droid) คือมีหัว มีแขน มีขาแบบเราๆนี่แหละครับ
เช่น ซันนี่ (I, Robot), Battle Droids (Starwars Episode I-III), Super Battle Droids (Starwars Episode II-III)
อ่านต่อ และ ที่มา
คอไซ-ไฟ ตอบหน่อย (กูเกิลกูรู) http://bit.ly/9C6WUY
Robot v. Android v. Cyborg https://honors.rit.edu/amitraywiki/index.php/Robot_v._Android_v._Cyborg
Robots, Androids, and Cyborgs http://thefactbox.blogspot.com/2007/04/robots-androids-and-cyborgs.html
วันอาทิตย์ที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2553
โปรแกรม nero burning มาจากชื่อ จักรพรรดิ เนโร ที่มีเรื่องเล่าว่า เป็นผู้สั่งเผากรุงโรม ชอตคัทของโปรแกรมนี้จึงเป็นรูป โคลอสเซียม ไฟไหม้
นีโร ผู้เผารอมและโรม -Nero Burning Rom(e)
เด็กรุ่นใหม่ที่มีคอมพิวเตอร์ในหัวใจรู้จักนีโรแทบทั้งนั้น Nero Burning Rom เป็นโปรแกรมสำเร็จรูปตัวเก่ง พัฒนาโดยบริษัท Ahead Software AG มีความสามารถด้านการเขียนหรือบันทึกข้อมูลลงบนแผ่นซีดีและดีวีดี หรือก๊อปปี้แผ่นต่อแผ่นก็ทำได้รวดเร็ว จึงได้รับความนิยมทั่วโลก ปัจจุบันพัฒนาไปไม่น้อยกว่า 8 เวอร์ชั่น 26 ภาษา และ 270ล้านก๊อปปี้ แต่ผู้ใช้โปรแกรมตัวนี้ครั้งแรกอาจรู้สึกแปลกๆกับชื่อโปรแกรม "นีโรเผาโรม" คำว่า "ROM" ย่อมาจาก Read Only Memmory/Data โดยปกติข้อมูลในแผ่น CD (Compact Disk) จะอยู่ในรูปอ่านอย่างเดียว แต่ถ้าคุณต้องการเขียนลงแผ่นซีดีโปรแกรมนีโรจะทำการเขียนข้อมูลลงแผ่นทันที ที่คุณกดปุ่ม "เผา" (Burn) ที่ออกแบบเป็นรูปแผ่นซีดีกำลังลุกไหม้ ทำให้ผู้หัดใช้หลายคนไม่กล้ากดกลัวแผ่นซีดีถูกเผา ทั้งตราสัญลักณ์ของโปรแกรมยังเป็นรูปอัฒจันทร์โคลอสเซียมในกรุงโรมกำลังถูก ไฟเผาผลาญ
ในอดีตนีโรเคยเป็นที่รู้จักในความหมายของจักรพรรดิทรราชที่ชาวโรมันและชาว คริสต์เกลียดชัง นีโรในอดีตไม่ได้เผาซีดีรอม แต่เผากรุงโรมเพียงเพราะอยากได้วังใหม่ที่ใหญ่กว่าเดิม นีโรเป็นจักรพรรดิองค์ที่ 5 และองค์สุดท้ายของราชวงศ์จูลิโอคลอเดีย ซึ่งปกครองจักรวรรดิโรมัน ทรราชผู้นี้เกิดเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม ค.ศ.37 ขึ้นครองราชย์วันที่ 13 ตุลาคม ค.ศ.54 ขณะอายุเพียง 25 ปี
ในช่วงแรกของการครองราชย์ จักรพรรดินีโรเป็นที่รักไคร่จากนิสัยที่เป็นกันเอง มีอารมณ์ขัน และชอบบริจาคสิ่งของแก่คนยากจน แต่เพียงไม่นานโฉมหน้าอันแท้จริงก็ปรากฎเรื่องใช้เงินหลวงอย่างฟุ่มเฟือย เขาแสดงนิสัยเผด็จการด้วยการไม่รับฟังความเห็นจากตัวแทนประชาชน
คืนวันที่ 18 กรกฎาคม ค.ศ.64 เกิดเพลิงไหม้กรุงโรมครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์โรมัน สิ่งก่อสร้างรวมทั้งสถานที่เก็บเอกสารสำคัญทางประวัติศาสตร์จมอยู่ในทะเล เพลิง สุดท้ายเมื่ออัคคีภัยยุติ มีเพียงบ้านเรือนหนึ่งในสามที่รอดพ้นจากวินาศภัยครั้งนี้ โดยองค์จักรพรรดิปลอดภัยดี เพราะเขาพาครอบครัวเดินทางออกจากโรมก่อนเกิดอัคคีภัย
หลังเพลิงสงบ นีโรกลับโรมพร้อมกำลังทหารองค์รักษ์ เขากล่าวโทษชาวคริสต์ว่าเป็นผู้วางเพลิง ชาวคริสต์จำนวนมากถูกสังหารเยี่ยงแพะรับบาป แรกๆชาวโรมดีใจที่เขาบัญชาให้บูรณะกรุงโรมอย่างเร่งด่วนโดยใช้เงินไม่อั้น แต่เมื่อเงินหมดท้องพระคลัง นีโรก็สั่งทหารปล้นสะดมชิงทรัพย์สินของประชาชนมาเป็นทุน และหลังการบูรณะเสร็จสิ้นวังของจักรพรรดิกลับยิ่งใหญ่อลังการณ์กว่าเดิมมาก จนชาวโรมเชื่อว่านีโรเป็นผู้วางแผนเผากรุงโรมเพื่อต้องการขยายวังที่ประทับ ตอกย้ำความเจ๊บช้ำของชาวโรมจนได้รับสมญานามว่า "Nero Burning Rome" 9 มิถุนายน ค.ศ.68 กองทัพโรมมันและรัฐสภาทนต่อไปไม่ไหว ส่งกองกำลังบุกจับองค์จักรพรรดิมาลงโทษ แต่นีโรชิงฆ่าตัวตายเมื่อวัย 31 ปี ซึ่งเป็นการสิ้นสุดของราชวงศ์ จูลีโอคลอเดีย
คำว่า Nero ก็หมายถึงจักรพรรดิ์ เนโรห์
ส่วนคำว่า Rom ในภาษาเยอรมัน มีความหมายว่า Rome (คนเขียนโปรแกรมเป็นชาวเยอรมัน)
ดังนั้น Nero Burning Rom = Nero Burning Rome นั่นเอง
ที่มา : วิกิฯ จักรพรรดิ์ เนโร http://bit.ly/ahuXuw
http://topicstock.pantip.com/chalermthai/topicstock/2006/05/A4384051/A4384051.html
รูปภาพประกอบ : อินเตอร์เน็ต
กฤตศิลป์ เป็นศัพท์บัญญัติของคำว่า clip art (ราชบัณฑิตยสถาน)
กฤตศิลป์ clip art
ความหมาย
หมายถึง ภาพที่ได้รับอนุญาตให้ตัดหรือคัดลอกมาใช้ได้ด้วยวิธีการทางคอมพิวเตอร์ (เช่น ใช้คำสั่ง cut หรือ copy) มีการนำมาเก็บรวบรวมไว้เพื่อใช้ในงานพิมพ์ตั้งโต๊ะ(desktop publishing) หรืองานพิมพ์ต่าง ๆ ในชุดโปรแกรมสำเร็จที่ชื่อ Microsoft Office จะมี Microsoft clip gallery รวบรวมภาพไว้ให้เลือกมากมาย เพื่อให้คัดลอกไปใช้ในงานพิมพ์ได้ตามที่ต้องการ
ที่มา สนุก! http://bit.ly/anMrOR ,
ราชบัณฑิตยสถาน
รูป : อินเตอร์เน็ต
ความหมาย
หมายถึง ภาพที่ได้รับอนุญาตให้ตัดหรือคัดลอกมาใช้ได้ด้วยวิธีการทางคอมพิวเตอร์ (เช่น ใช้คำสั่ง cut หรือ copy) มีการนำมาเก็บรวบรวมไว้เพื่อใช้ในงานพิมพ์ตั้งโต๊ะ(desktop publishing) หรืองานพิมพ์ต่าง ๆ ในชุดโปรแกรมสำเร็จที่ชื่อ Microsoft Office จะมี Microsoft clip gallery รวบรวมภาพไว้ให้เลือกมากมาย เพื่อให้คัดลอกไปใช้ในงานพิมพ์ได้ตามที่ต้องการ
ที่มา สนุก! http://bit.ly/anMrOR ,
ราชบัณฑิตยสถาน
รูป : อินเตอร์เน็ต
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)