"... การที่จะทำนั้นเคยพูดแล้วว่า นักเขียน นักแสดงความคิด ไม่ใช่นักแสดงละคร นักแสดงความคิดออกมานั้นมีความสำคัญมาก เพราะว่ามีอิทธิพลต่อชีวิตของมวลมนุษย์ และโดยเฉพาะประชากรและสังคมในประเทศของเรา ถ้าเราเขียนอะไรออกมา เขาอ่านไปแล้วทำให้เกิดความคิดที่อาจคล้อยตามไปได้ และถ้าการเขียนนั้นเขียนดีก็ยิ่งคล้อยตามกันมาก ฉะนั้น ท่านก็เกิดความรับผิดชอบมาก ท่านเป็นผู้ที่จะปั้นความคิดของประชาชนในปัจจุบันและอนาคตได้ ..
... ถ้าเราต้องการที่จะปั้นส่วนรวมขึ้นมาเป็นสิ่งที่ดีงาม เราก็ต้องพยายามกลั่นกรองไว้ในสมองว่า ที่จะเขียนที่จะแสดงออกมาเป็นสิ่งที่จะไม่แสลง ที่จะไม่ทำลายความคิดของประชากร ฉะนั้น ที่ว่ามีอิทธิพลมาก อิทธิพลในทางที่ดีก็มี มิใช่ว่าจะขอให้ท่านทั้งหลายเขียนในทางที่สอนให้ทำดี ซึ่งไม่สนุก เรื่อบอกให้ทำดีนี่เป็นเรื่องของการเกณฑ์กันทางราชการ ไม่ใช่อย่างนั้น เราเขียนอย่างมีเสรีภาพเต็มที่ ไม่ใช่ไม่มีเสรีภาพ มีเสรีภาพเต็มที่ในการที่จะประกอบความดี ในสิ่งใดที่ไม่มีเสรีภาพ เพราะเหตุว่าเกรงว่าจะทำลายส่วนรวม จะเป็นตัวอย่างที่จะทำชักจูงให้เกิดความปั่นป่วน ...
... เสรีภาพนั้นถ้าบอกว่ามีเสรีภาพเต็มที่ก็ไม่เชิง ไม่ใช่ว่าจะมีเสรีภาพเต็มที่ มีเสรีภาพในขอบเขตของเสรีภาพของผู้อื่นที่จะมีสิทธิที่จะมีชีวิตที่มีการคุ้มครองในตัว คือ ไม่ให้ถูกทำลายโดยปราศจากความเป็นธรรม ฉะนั้นการที่บ่นว่าไม่มีเสรีภาพ ไม่สามารถที่จะเขียนเต็มที่ จริงนี่กลับคำแล้วเป็นความจริง แต่เป็นเพราะว่าเราต้องเขียนอะไรที่ไม่ทำลายผู้อื่นและไม่ทำลายตนเอง ก็สรุปความได้ว่าท่านทั้งหลายมีเสรีภาพเต็มที่ในขอบเขตของศีลธรรม ..."
พระบรมราโชวาท พระราชทานแก่ คณะสมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทย วันศุกร์ที่ ๓ พฤศจิกายน ๒๕๑๕
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น