"ความรู้ ไม่ใช่ปัญญา" (Knowledge is not wisdom.) --ไอน์สไตน์--

ความรู้เป็นเรื่องของความความคิดตาม ประสบการณ์ การทดลอง หรือองค์แห่งสาระ มากมายตำรา มาให้อ่านและเพิ่มพูน แต่ปัญญาเป็นเรื่องทางจิตใจ ความเข้าใจ ประกอบโดยสติและรู้เท่าทัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือการรู้เท่าทันตนเอง ตรงนี้เอง "ความรู้ท่วมหัว เอาตัวไม่รอด" ไม่ได้เกิดจากความรู้เยอะ แต่น่าจะเกิดจากมีปัญญาไม่พอ ที่จะประคองชีวิตให้พ้นผ่านอุปสรรค (ขยายความจาก "ความรู้ ไม่ไช่ปัญญา - Khowledge is not wisdom" คำจาก ไอน์สไตน์)



วันศุกร์ที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

เรือนสามน้ำสี่?? โอวาทผู้ใหญ่ต่อเจ้าสาว 1)บ้านเรือน 2)เรือนผม 3)เรือนกาย 1)น้ำใจ 2)น้ำคำ 3)น้ำมือ(ฝีมืออาหาร) 4)น้ำเต้าปูนหมาก(ไม่ขี้เกียจ)

ความหมาย "เรือนสามน้ำสี่”
คำว่าลูกผู้หญิงต้องเพียบพร้อมไปด้วย “เรือนสามน้ำสี่” หมายความว่าอะไร





คำว่า “เรือนสามน้ำสี่” มักจะได้ยินเวลาที่ผู้หลักผู้ใหญ่อวยพรให้กับเจ้าสาวเป็นหลักยึดในการครองชีวิตคู่ หลังจากแต่งงานออกเหย้าออกเรือนไป

เรือนแรก คือ บ้านเรือน ผู้หญิงจะต้องทำความสะอาดเช็ดกวาดถูบ้านเรือนให้สะอาดตลอดเวลา รวมไปถึงการจัดเก็บข้าวของเครื่องใช้ไม่ให้เกะกะรกหูรกตา ต้องเป็นระเบียบเรียบร้อย

เรือนที่สอง คือ เรือนผม ผู้หญิงจะต้องมีเรือนผมที่สะอาด ดูดีเรียบร้อย ทั้งก่อนเข้านอนและหลังจากตื่นนอนแล้ว

เรือนที่สาม คือ เรือนกาย เรื่องนี้สำคัญ เพราะผู้หญิงที่เนื้อตัวดูสกปรกมอมแมม ย่อมไม่น่ามองนัก




ส่วนน้ำสี่นั้น น้ำแรก คือ น้ำใจ ฝ่ายหญิงจะต้องรู้จักการมีน้ำใจต่อสามี บุตรธิดา รวมไปถึงพ่อแม่ของฝ่ายสามีและญาติพี่น้อง เช่น ให้การต้อนรับที่ดี สำรับคาวหวานต้องไม่ขาดตกบกพร่อง เมื่อไปเยี่ยมญาติพี่น้องก็ต้องแสดงน้ำใจอาจมีของฝากเป็นเสื้อผ้าหรือผลไม้

น้ำที่สอง คือ น้ำคำ ผู้หญิงต้องมีมุธรสวาจาไพเราะเสนาะหู อ่อนหวาน ไม่ว่าจะโอภาปราศรัยกับสามี ญาติพี่น้องหรือบุคคลอื่น งดการนำเรื่องเดือดเนื้อร้อนใจต่างๆ มาพูดให้สามีฟัง ถ้าจะพูดต้องดูกาลเทศะให้ดี

น้ำที่สาม คือ น้ำมือ ลูกผู้หญิงต้องมีฝีมือในการทำอาหารการกิน รสชาติต้องอร่อย สะอาดสะอ้าน รู้ใจคนในบ้านว่าชอบหรือไม่ชอบอะไร รู้จักการทำแบบประหยัดแต่มีคุณค่า

น้ำที่สี่ คือ น้ำเต้าในปูน สมัยก่อนทุกบ้านเรือนจะมีเต้าปูนแดงที่ใช้กินกับหมาก เจ้าปูนแดงนี้จะต้องมีน้ำหล่ออยู่เสมอ ปูนแดงจะได้ไม่แห้งแข็ง เวลาใช้ไม้พายป้ายปูนใส่ใบพลูจะได้ปาดได้เรียบ ถ้าเต้าปูนบ้านใครเมื่อยกมารับแขกแล้วน้ำในเต้าปูนแห้ง ถือว่าลูกสาวบ้านนี้ขี้เกียจ หรือเป็นแม่บ้านที่บกพร่อง



ที่มา : เบญกัลยาณี เมธีสอนครองเรือน พ.ศ. 2519
เว็บเผยแพร่ : http://www.isan.clubs.chula.ac.th/rean3nam4/
รูปภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต

ไม่มีความคิดเห็น: