E20 และน้ำมัน แต่ละปั้มคุณภาพต่างกันหรือไม่??
E20 คือน้ำมันเบนซินไร้สารตะกั่วผสมกับเอทานอล ซึ่งเป็นแอลกอฮอล์บริสุทธิ์ 99.5 % ในอัตราส่วน เบนซิน 80 : เอทา นอล 20 ได้เป็นน้ำมัน E 20 ออกเทน 95 ตามมาตรฐานของกระทรวงพลังงาน
8.มาตรฐานน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20
ตามประกาศของกรมธุรกิจพลังงานเรื่อง กำหนดลักษณะและคุณภาพของน้ำมันแก๊สโซฮอล์ พบว่าคุณภาพของน้ำมัน แก๊สโซฮอล์ E 20 นั้น แทบจะไม่ได้แตกต่างจากน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E10 มีค่าเพียง 3 ค่าที่แตกต่างกันคือ
1. อุณหภูมิการกลั่น
2. ความดันไอสูง
3. ปริมาณผสมเอทานอล
ปัญหาจาก E20
เนื่องจาก เอทานอลคือแอลกอฮอล์บริสุทธิ์ มีคุณสมบัติเด่นที่ต่างจากน้ำมันบนซิน เช่น จุดเดือดของแอลกอฮอล์จะต่ำ กว่า น้ำมันทำให้มีแรงดันไอมากกว่า ซึ่งจะมีปัญหากับรถบางรุ่น โดยเฉพาะรถรุ่นเก่าที่ใช้คาร์บิวเรเตอร์ ที่มีถังน้ำมันติดตั้งห่างจากตัว เครื่องยนต์มากเกินไป หรือรถยนต์ที่มีขนาดของท่อเชื้อเพลิงที่เล็กเกินไป อาจมีผลทำให้แอลกอฮอล์ที่อยู่ ในท่อเชื้อเพลิงเปลี่ยนสภาพ จากของเหลวเป็นไอได้ง่ายเนื่องจากความฝืดของท่อมีมากส่งผลให้การหมุนของเครื่องยนต์มีความเร็วรอบไม่สม่ำเสมอ เครื่องจะกระตุก หรือดับในบางช่วง
นอกจากนี้ แอลกอฮอล์ยังมีคุณสมบัติการกัดกร่อนสูง ยิ่งสัดส่วนของแอลกอฮอล์ในน้ำมันมากขึ้นจะยิ่งเพิ่มคุณสมบัติ การกัดกร่อนให้เพิ่มมากขึ้นด้วย ซึ่งสามารถกัดกร่อนยาง พลาสติกบางชนิด และโลหะประเภททองเหลือง ทองแดง และอาจส่งผลให้ ท่อส่งน้ำมันไปจนถึงถังน้ำมันเกิดการผุกร่อนจนทะลุได้ภายในระยะเวลาประมาณ ครึ่งปี – 1 ปี
สำหรับผู้ที่ใช้ แก็สโซฮอล์ E10 แล้วยังมีปัญหา ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มผู้ใช้รถที่มักจะจอดรถทิ้งไว้นานๆ ไม่ได้ใช้รถ เป็นประจำ ทำให้แอลกอฮอล์กับน้ำมันเกิดการแยกตัวออกจากกันเพราะ ทิ้งไว้เป็นเวลานานเกินไป
แอลกอฮอล์ซึ่งมีน้ำหนักเบากว่า จะลอยอยู่ด้านบน เมื่อมีการใช้รถ เชื้อเพลิงที่ถูกสูบเข้าไปในห้องเครื่องจะไม่ใช่น้ำมันแก๊สโซฮอล์ แต่จะเป็นแอลกอฮอล์ที่มีความเข้มข้น สูงมากหรือเทียบได้กับการใช้แอลกอฮอล์ล้วน ๆ เป็นเชื้อเพลิง ทำให้เกิดปัญหากับระบบเผาไหม้ของเครื่องยนต์
อ่านเต็มๆ ที่ http://vet.kku.ac.th/vmkku/Knowledge/Sohol%20E20.html สาระน่ารู้เกี่ยวกับน้ำมันแก็สโซฮอล์ E20
ข้อมูลน้ำมันเชื่อเพลิงออกเทน 95
1.E20 คือน้ำมันเป็นซิน 87 (80%) + เอทานอล (20%) = ออกเทน95
2.โซฮอล 95 คือน้ำมันเป็นซิน 91 (90%) + เอทานอล (10%) = ออกเทน95
3.เบนซิน 95 คือน้ำมันเป็นซิน 95 (100%) = ออกเทน95
ในแต่ละค่าย(แบรนด์ปั้ม) จะมีการเติม Additive ในน้ำมันของบริษัทตัวเอง
Caltex Techron ที่เน้นในการทำความสะอาด และการปกป้อง
Shell ก็มี S.A.F.E ที่ช่วยเรื่องการทำความสะอาด และการเผาไหม้
และตัวแรงอย่าง V-Power เบนซินที่มี Additive ที่เข้มข้นกว่าเดิม
บางจาก ก็ใช้ Super Fast ที่ทำความสะอาดได้อย่างดีเยี่ยม
ปตท. เองก็มี Friction Modifier ซึ่งเป็นสารชะล่างทำความสะอาด
แต่ทั้งหมดนั้นเป็นปริมาณที่เล็กน้อยมาก เหมือนเทียบกับ Additive ที่เรานำมาเพิ่มเติมเอง
(โดยทั่วไป บ.น้ำมันจะใช้ Additive ในอัตรา 1:ล้านส่วน เท่านั้นเอง)
หลายคนคงเคยรู้สึกว่า น้ำมันก็มาจากโรงกลั่นเดียวกัน แต่เป็นปั้มคนละแบรน์ ทำไม่เติมปั้มหนึ่งแล้วรู้สึกว่าวิ่งกว่า หรือประหยัดกว่า แต่ทำไม่เติมอีกปั้มนึงและรู้สึกไม่ค่อยวิ่งเลย แถมกินอีกต่างหาก เพราะ Additive แต่ละสูตร และความเข้มข้นของของแบรน์นั้นๆ มีความแตกต่างกันนั้นเอง
ที่มา : กูเกิลกูรู
รูปภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต
"ความรู้ ไม่ใช่ปัญญา" (Knowledge is not wisdom.) --ไอน์สไตน์--
ความรู้เป็นเรื่องของความความคิดตาม ประสบการณ์ การทดลอง หรือองค์แห่งสาระ มากมายตำรา มาให้อ่านและเพิ่มพูน แต่ปัญญาเป็นเรื่องทางจิตใจ ความเข้าใจ ประกอบโดยสติและรู้เท่าทัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือการรู้เท่าทันตนเอง ตรงนี้เอง "ความรู้ท่วมหัว เอาตัวไม่รอด" ไม่ได้เกิดจากความรู้เยอะ แต่น่าจะเกิดจากมีปัญญาไม่พอ ที่จะประคองชีวิตให้พ้นผ่านอุปสรรค (ขยายความจาก "ความรู้ ไม่ไช่ปัญญา - Khowledge is not wisdom" คำจาก ไอน์สไตน์)
วันเสาร์ที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2553
Additive (สารเพิ่มฯ) ในน้ำมันแต่ละยี่ห้อ ☆Caltex Techron เน้นในการทำความสะอาด และการปกป้อง ☆Shell ก็มี S.A.F.E ช่วยเรื่องการทำความสะอาด และ / (Shell) V-Power เบนซินที่มี Additive ที่เข้มข้นกว่าปกติ ☆บางจาก ใช้ Super Fast ที่ทำความสะอาดได้อย่างดีเยี่ยม ☆ปตท.มี Friction Modifier ซึ่ง / (ปตท.)เป็นสารชะล้างทำความสะอาดเข้มข้น(รถเก่าOK) ทุกค่ายเติม Additive ในอัตรา 1 : ล้านส่วน ☆E20 คือเบนซิน87(80%)+เอทานอล(20%)=ออกเทน95 :)
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น