"ความรู้ ไม่ใช่ปัญญา" (Knowledge is not wisdom.) --ไอน์สไตน์--

ความรู้เป็นเรื่องของความความคิดตาม ประสบการณ์ การทดลอง หรือองค์แห่งสาระ มากมายตำรา มาให้อ่านและเพิ่มพูน แต่ปัญญาเป็นเรื่องทางจิตใจ ความเข้าใจ ประกอบโดยสติและรู้เท่าทัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือการรู้เท่าทันตนเอง ตรงนี้เอง "ความรู้ท่วมหัว เอาตัวไม่รอด" ไม่ได้เกิดจากความรู้เยอะ แต่น่าจะเกิดจากมีปัญญาไม่พอ ที่จะประคองชีวิตให้พ้นผ่านอุปสรรค (ขยายความจาก "ความรู้ ไม่ไช่ปัญญา - Khowledge is not wisdom" คำจาก ไอน์สไตน์)



วันจันทร์ที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

คิดได้ไง?? ปี1911การแข่ง Indy500 ปกติต้องขับคันละ2คน แต่นายรอย ฮาร์โรน อยากขับคนเดียว ถูกประท้วง เลยทำกระจกส่องหลังแทนคนบอกทาง และเขาชนะเลิศ

กระจกส่องหลัง


เรื่องมีอยู่ว่า ในการแข่งรถ "อินดี้ 500" (indy 500) เมื่อปี ค.ศ.1911 มีรถเข้าลงทะเบียนแข่งขัน 40 คัน ปกติแล้ว การแข่งขันจะต้องมีผู้อยู่ในรถ 2 คน


คือ คนขับ และช่างเครื่อง ซึ่งทำหน้าที่คอยดูข้างหลังช่วยคนขับด้วย แต่นายรอย ฮาร์โรน (Roy Harroun) ลงทะเบียนเข้าแข่งเพียงผู้เดียว จึงถูกผู้ร่วมแข่งขันคนอื่น ๆ ประท้วงด้วยเหตุผลที่ว่า ขับคนเดียวนั้นไม่ปลอดภัยต่อตนเองและผู้อื่น เพราะไม่มีใครช่วยดูข้างหลังให้

ฮาร์โรนแก้ปัญหาการประท้วงครั้งนี้ ด้วยการทำกระจกเป็นปพิเศษติดที่รถของเขา ฮาร์โรนเรียกกระจกนี้ว่า "กระจกส่องหลัง" (rear-view mirror) ซึ่งทำหน้าที่สะท้อนภาพข้างหลังให้เห็น แทนผู้ช่วยบอกทาง ในที่สุดกรรมการก็อนุญาตให้เขาลงแข่งขันได้ ผลปรากฏว่า ฮาร์โรนใช้เวลาในการขับรถแข่งเพียง 6 ชั่วโมง 42 นาที เขาคือผู้ชนะเลิศเข้าสู่เส้นชัยเป็นคนแรก

การแก้ปัญหาครั้งนี้้้้้้้้้ของเขา นำมาสู่การปรับเปลี่ยนโฉมหน้ารถครั้งยิ่งใหญ่ ทำให้มีกระจกส่องหลังมาจนทุกวันนี้
 
 
 
ที่มา : รอบรู้เรื่องรถยนต์อินดี้ ,หนังสือ ,พ.ศ. 2548
เว็บไซต์เผยแพร่ : วิชาการดอทคอม http://www.vcharkarn.com/varticle/40223
รูปภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต

ไม่มีความคิดเห็น: