ลองดูราคาปูกันก่อนดีกว่า สำหรับปูอลาสก้านั้น ในประเทศไทยจะมีราคาสูงถึง กิโลกรัมละ 3000 บาทโดยประมาณ และจะแพงกว่านี้ ถ้าหากถูกนำไปขายในประเทศที่นิยมรัปทานปูอลาสก้ากัน ลองคิดดูว่า ปูอลาสก้าตัวนึง ที่เป็นปูที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก จะมีน้ำหนักประมาณสักกี่กิโลกรัมกัน
หนึ่งในผู้ทำอาชีพนี้กล่าวว่า เค้าได้เงินหลังจากการจับ ปูอลาสก้า ครั้งละประมาณ 5 แสนบาทเลยทีเดียว และ 4-5 แสนนี่ ใช้เวลาเตรียมตัว เตรียมเรือประมาณ 2 เดือน และออกเดินทาง จับปูอลาสก้าแค่เพียง 5 วันเท่านั้น และคนส่วนใหญ่ที่ทำอาชีพนี้ จะออกไปรับงานอย่างอื่นทำในช่วงที่หมดเทศกาลจับปูอลาสก้า
ฟังดูดีนี่ แล้วอะไรกันคือความเสี่ยงตาย ?
ปูอลาสก้า ก็ต้องอยูที่ อลาสก้าน่ะสิ แล้วทำไมน่ะหรอ ง่ายๆเลยคือ ทะเลที่อาศัยของเหล่าปูอลาสก้านั้น จะประกอบไปด้วย คลื่นลมแรง และสูงอย่างต่ำ 7 - 10 เมตร ตลอดเวลา ทำให้เรือนั้นไม่มีทางที่จะอยู่นิ่งๆได้เลย นอกจากนี้ ด้วย อุณหภูมิ ประมาณ 0 องศา นั้น ก็เพียงพอที่จำทำให้น้ำทะเล ที่กระฉอกเข้ามาในเรือ กลายเป็นน้ำแข็งได้ทันที
ในขณะที่กะลังหาปลาอยู่ท่ามกลาง อุณหภูมิ ต่ำกว่า 0 องศาเช่นนี้ ภายในน้ำทะเล จะยิ่งมีความเย็นไม่ต่างจากการลงไปแช่ในน้ำแข็งสักเท่าไหร่นัก และทุกๆครั้งที่ม?เทศกาลจับปูอลาสก้าเกิดขึ้น จะต้องมี ผู้เสียชีวิตเป็นเรื่องธรรมดา และสาเหตุที่ทำให้เสียชีวิตนั้น ก็คือการที่ ผู้จับ ตกลงไปในน้ำซึ่งหนาวจัด และเกิดภาวะ สูญเสียความร้อนอย่างเฉียบพลัน นั่นเอง
นอกจากนี้ยังมีเรื่องที่ต้อง กังวลอีกมาก ไม่ว่าจะเป็น ขนาดของปูที่จับได้นั้น จะต้องตรงตามที่กฏหมายกำหนดเท่านั้น มิเช่นนั้นอาจถูกเพิกถอนใบอนุญาต ได้ทันทีเลยทีเดียว
ที่มา : EDUZONE
Deadliest Catch โดย Discovery Ch
FWD mail
รูปภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น